วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การส่งเสริมสุขภาพ



การส่งเสริมสุขภาพ หมายถึง "กระบวนการเพิ่มสมรรถนะให้คนมีความสามารถเพิ่มขึ้นในการควบคุมและการส่งเสริมให้สุขภาพของตนเองดีขึ้น ในการที่จะบรรลุสุขภาวะที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ เรื่องสุขภาพจึงถูกมองในลักษณะของความจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวัน มิใช่เป็นเพียงจุดมุ่งหมายของการดำรงชีวิตเท่านั้น สุขภาพเป็นคำที่มีความหมายในทางบวก การส่งเสริมสุขภาพจึงมิใช่เป็นความรับผิดชอบขององค์กรในภาคสาธารณสุขเท่านั้น



การออกกำลังกาย หมายถึง การออกกำลังกายเพื่อเพิ่ม หรือคงไว้ซึ่งความทนทานของระบบไหลเวียนโลหิตและปอด โดยมีขบวนการใช้ออกซิเจน ในขบวนการเผาผลาญ เพื่อให้เกิดพลังงานสำหรับการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องจึงมีชื่อเรียกการออกกำลังกายชนิดนี้ว่า AEROBIC EXERCISE







ประโยชน์ต่อสุขภาพ


1. ระบบไหลเวียนโลหิต
1.1 ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงมากขึ้น สามารถสูบฉีดโลหิตได้ปริมาณมากขึ้น
1.2 เพิ่มหลอดโลหิตฝอยมาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้น
1.3 ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ทั้งในขณะพัก และออกกำลังกาย ทำให้ไม่


2. ระบบหายใจ
2.1 ความจุปอดเพิ่มขึ้น ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนมากขึ้น
2.2 เพิ่มปริมาณโลหิตไปสู่ปอด ทำให้การไหลเวียนของปอดดีขึ้น
2.3 เพิ่มประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนก๊าซที่ปอด ทำให้ประสิทธิภาพการหายใจดีขึ้น


3. ระบบประสาทและจิตใจ
3.1 ลดความวิตกกังวลและคลายความเครียด
3.2 มีความสุขและรู้สึกสบายใจจากสาร Endorphin ที่หลั่งออกมาจากสมองขณะออกกำลังกาย




การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ



อาหาร หมายความว่า ของกินหรือเครื่องค้ำจุนชีวิต ได้แก่ วัตถุที่คนกิน ดื่ม อม หรือนำเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีใดๆ ในรูปลักษณะใดๆ แต่ไม่รวมถึงยา และวัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ หรือใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหาร อาหารเป็นแหล่งให้พลังงานและสารอาหาร ที่จะนำไปสร้างและซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานปกติ ร่างกายเจริญเติบโต มีพัฒนาการและสุขภาพที่ดี จึงมีคำกล่าวว่า “เราจะเป็นสิ่งที่เรากิน (We are what we eat)” อาหารมีหลากหลายชนิดและให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายต่างกัน การรับประทานอาหารจึงมีผลต่อการสร้างเสริมสุขภาพและการมีอายุยืน






1. รับประทานอาหารที่มีพลังงานและสารอาหารจำเป็นเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ซึ่งจะแตกต่างกันตามวัย เพศ อาชีพ ขนาดของร่างกาย พันธุกรรม ควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ







2. รับประทานอาหารที่มีพลังงานและสารอาหารสมดุลได้สัดส่วน โดยรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ โดยมีโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรท และ 55 ของพลังงานทั้งหมดต่อวันตามลำดับ อาหารแต่ละหมู่จะมีสารอาหารหลายชนิด แต่มีสารอาหารบางตัวเป็นสารอาหารหลักมากกว่าสารอาหารอื่น อาหาร 5 หมู่ คือ 1) ข้าว แป้ง น้ำตาล มีคาร์โบไฮเดรทเป็นสารอาหารหลัก 2) เนื้อ นม ไข่ และถั่วเมล็ดแห้ง มีโปรตีนเป็นสารอาหารหลัก 3) ไขมัน น้ำมัน มีไขมันเป็นสารอาหารหลัก 4) พืชผัก มีเกลือแร่และวิตามินเป็นสารอาหารหลัก วิตามินที่มีมาก คือ วิตามินซี ผักจะมีคาร์โบไฮเดรทมากน้อยต่างกันตามชนิด และ 5) ผลไม้ มีเกลือแร่และวิตามินเป็นสารอาหารหลักเช่นเดียวกับผัก แต่มีคาร์โบไฮเดรทสูงกว่าผัก เกือบทุกชนิดให้วิตามินซีสูง สารอาหารแต่ละประเภทมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกัน

















3. รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ คือ สด สะอาด สุก และปลอดภัยจากสารพิษหรือสารปนเปื้อน หมุนเวียนชนิดของอาหารและวิธีการปรุงอาหารไม่ให้ซ้ำซากจำเจ ปรุงอาหารด้วยวิธีการที่เหมาะสมสามารถรักษาคุณค่าของสารอาหาร ช่วยให้ย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย

4 . รับประทานอาหารอย่างผ่อนคลายอารมณ์ดี เคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด นึกถึงแต่ความสุข นึกถึงชาวนาชาวสวนไม่รับประทานทิ้งขว้าง รับประทานพอประมาณจวนอิ่มแล้วหยุด ไม่รับประทานมากเกินไป หากรับประทานอาหารอย่างมีความสุขมื้อละ 30 นาที เท่ากับเราจะมีความสุขวันละ 90 นาที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น